
ลูกที่รักของพ่อ การเรียนรู้การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการเติบโตและประสบความสำเร็จในชีวิต พ่ออยากให้ลูกเข้าใจว่า ไคเซ็น (Kaizen) หรือการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาทักษะและความสามารถ ลูกไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ แต่เริ่มต้นจากการปรับปรุงเล็กน้อยทุกวัน วันนี้พ่อจะอธิบายหลักการพื้นฐานของไคเซ็นและยกตัวอย่างที่จะช่วยให้ลูกสามารถใช้หลักการเหล่านี้ในชีวิตประจำวันได้
1. เริ่มจากเป้าหมายเล็ก ๆ ที่ทำได้จริง
ลูกคงเคยได้ยินคำว่า “การทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เริ่มจากก้าวเล็ก ๆ” ใช่ไหม? ไคเซ็นบอกเราให้เริ่มต้นจากสิ่งที่ทำได้จริง โดยไม่ต้องรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อน
สมมุติว่าลูกอยากจะเรียนรู้การเล่นกีตาร์ ซึ่งอาจดูเป็นสิ่งที่ท้าทายและต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าลูกเริ่มจากการฝึกเล่นเพียงวันละ 5 นาที แล้วค่อยเพิ่มเวลาออกไปเรื่อยๆ จะเห็นความก้าวหน้าอย่างชัดเจน พ่อเคยเริ่มเรียนเล่นกีตาร์โดยการฝึกเล่นเพียงเพลงง่าย ๆ และค่อย ๆ พัฒนาทักษะให้ดีขึ้นจนสามารถเล่นเพลงที่ชอบได้
ลองนึกดูว่า เมื่อเวลาผ่านไป ลูกจะมีทักษะการเล่นกีตาร์ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สามารถเล่นเพลงที่ชอบได้อย่างไหลลื่น ความรู้สึกของความสำเร็จและความสามารถที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงผลักดันให้ลูกมุ่งมั่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ให้ลูกลองตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในการฝึกซ้อมการเล่นกีตาร์วันละ 5 นาที และค่อย ๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ ลูกจะเห็นความก้าวหน้าและรู้สึกดีใจที่ทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

2. สร้างนิสัยดีทีละนิด ทำซ้ำทุกวัน
นิสัยดีเริ่มต้นจากการทำสิ่งเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวัน ลูกอาจคิดว่าการสร้างนิสัยดีเป็นเรื่องยาก แต่การทำในสิ่งเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอจะทำให้การสร้างนิสัยดีนั้นง่ายขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น หากลูกต้องการพัฒนานิสัยการอ่านหนังสือ ลูกอาจเริ่มจากการอ่านหนังสือวันละ 10 หน้า ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่ามีเวลาน้อย แต่เมื่อลูกทำเป็นประจำจะเห็นว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องที่สนุกและช่วยให้มีความรู้เพิ่มขึ้น
เมื่อการอ่านหนังสือกลายเป็นนิสัย ลูกจะมีความรู้และทักษะที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สามารถทำการบ้านได้ดีขึ้น และอาจพบหนังสือที่สนุกสนานซึ่งช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางมากขึ้น
ให้ลูกกำหนดเวลาในการอ่านหนังสือทุกวันและพยายามทำให้เป็นกิจวัตร เช่น อ่านหนังสือก่อนนอนวันละ 10 หน้า ลูกจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้า
3. ฝึกมองหาความก้าวหน้าแม้เพียงเล็กน้อย
ลูกอาจมองข้ามความก้าวหน้าเล็กน้อยเพราะรู้สึกว่ามันไม่สำคัญ แต่ไคเซ็นสอนให้เรารู้ว่าความสำเร็จเริ่มจากการเห็นความก้าวหน้าแม้ในสิ่งเล็กน้อย
หากลูกกำลังเรียนคณิตศาสตร์และรู้สึกว่าความก้าวหน้าไม่มาก แต่ทุกครั้งที่สามารถแก้โจทย์ได้สำเร็จแม้เป็นโจทย์ง่าย ๆ ก็เป็นความก้าวหน้า พ่อเคยเรียนรู้การแก้ปัญหาในวิชาอื่น ๆ โดยการยกย่องความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจ
การตระหนักถึงความก้าวหน้าแม้ในสิ่งเล็กน้อยจะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจและแรงจูงใจในการเรียนรู้มากขึ้น ลูกจะรู้ว่าความพยายามไม่สูญเปล่าและทำให้รู้สึกดีเมื่อเห็นความก้าวหน้า
ให้ลูกบันทึกความก้าวหน้าในการเรียนหรือทักษะใหม่ ๆ ที่เรียนรู้ เช่น การเก็บคะแนนสอบหรือการทำการบ้านที่สำเร็จ ลูกจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นความก้าวหน้าในบันทึก

4. เรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่ใช่กลัวมัน
สำหรับแนวทางไคเซ็น ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว การเรียนรู้จากความล้มเหลวจะทำให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาได้ดีขึ้น
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าลูกทำโปรเจกต์ไม่สำเร็จ พ่ออยากให้ลูกมองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้จากข้อผิดพลาด ลูกเคยเผชิญกับความล้มเหลวในงานที่ทำ แต่การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและการหาวิธีแก้ไขทำให้พัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น
การเรียนรู้จากความล้มเหลวจะช่วยให้ลูกมีทักษะในการจัดการกับปัญหาและไม่ย่อท้อเมื่อเผชิญกับอุปสรรค ลูกจะรู้สึกมั่นใจและพร้อมที่จะพยายามอีกครั้งเมื่อพบความล้มเหลว
เมื่อเกิดความล้มเหลว ให้ลูกบันทึกสิ่งที่เรียนรู้จากประสบการณ์นั้นและวางแผนเพื่อการปรับปรุงในอนาคต เช่น การเขียนบันทึกหรือการพูดคุยกับครูเพื่อหาวิธีแก้ไข
5. แตกเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อย ๆ
การตั้งเป้าหมายใหญ่ ๆ อาจทำให้รู้สึกท้อแท้ แต่การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนย่อยๆ จะทำให้การบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้นและจัดการได้ดีขึ้น
สมมุติว่าลูกต้องการเรียนภาษาต่างประเทศใหม่ การตั้งเป้าหมายที่จะพูดภาษานั้นคล่องแคล่วในปีหน้าดูเหมือนจะยาก แต่ถ้าลูกตั้งเป้าหมายย่อย เช่น เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทุกวันหรือทำการฝึกพูด 10 นาทีทุกวัน ลูกจะเห็นความก้าวหน้าและสามารถบรรลุเป้าหมายใหญ่ได้
การแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อยช่วยให้ลูกเห็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและรู้สึกว่าการบรรลุเป้าหมายเป็นไปได้ ส่งผลให้มีแรงจูงใจในการทำงานต่อไป
ให้ลูกตั้งเป้าหมายย่อยในกิจกรรมหรือการเรียนรู้ที่ต้องการบรรลุ เช่น การเรียนภาษาหรือการทำการบ้าน โดยการแบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อย ๆ และติดตามความก้าวหน้าในแต่ละขั้นตอน

6. ให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย
การให้รางวัลตนเองเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อยช่วยเพิ่มแรงจูงใจและทำให้การพัฒนาเป็นเรื่องที่สนุกและน่าสนใจ
หากลูกทำการบ้านเสร็จตามกำหนดเวลา หรือสามารถทำการเรียนรู้สำเร็จตามเป้าหมายย่อย เช่น การอ่านหนังสือครบ 10 หน้าในวันหนึ่ง การให้รางวัลตนเองเช่น การรับประทานของโปรด หรือเล่นเกมที่ชอบ สามารถทำให้ลูกมีความรู้สึกดีและกระตือรือร้นที่จะทำงานต่อไป พ่อเองเคยใช้วิธีนี้ในการพัฒนาทักษะของตัวเอง เช่น การให้รางวัลตัวเองด้วยการไปดูหนังหรือทานอาหารอร่อย ๆ หลังจากบรรลุเป้าหมายการทำงานที่สำคัญ
การให้รางวัลตนเองเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อยไม่เพียงแค่เพิ่มแรงจูงใจ แต่ยังช่วยสร้างความรู้สึกของความสำเร็จและความพอใจ เมื่อได้รับรางวัล ลูกจะรู้สึกว่าความพยายามของตนได้รับการยอมรับ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานต่อไป
ให้ลูกกำหนดรางวัลเล็ก ๆ สำหรับตัวเองเมื่อทำสิ่งสำเร็จตามเป้าหมายย่อย เช่น การให้รางวัลตนเองด้วยการดูการ์ตูนหรือทำกิจกรรมที่สนุกหลังจากทำการบ้านเสร็จ หรือหลังจากฝึกทักษะใหม่ ๆ ได้ตามเป้าหมาย ลูกจะรู้สึกว่าการพัฒนาเป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น
7. การทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จที่มากขึ้น
การทำงานร่วมกันกับผู้อื่นสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ และการเรียนรู้จากคนอื่นสามารถช่วยให้ลูกพัฒนาได้เร็วขึ้น
หากลูกต้องการทำโครงการกลุ่ม เช่น การทำงานในห้องเรียน การแบ่งหน้าที่และการทำงานร่วมกันกับเพื่อนจะทำให้โครงการเสร็จสิ้นได้รวดเร็วขึ้น และยังสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จากเพื่อนร่วมงาน ตัวอย่างเช่น พ่อเคยทำงานในทีมที่ต้องพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ ซึ่งการทำงานร่วมกันกับทีมช่วยให้โครงการสำเร็จได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
การทำงานร่วมกันไม่เพียงแค่ช่วยให้โครงการเสร็จสิ้นได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการเรียนรู้จากกันและกัน เมื่อเรียนรู้จากผู้อื่น ลูกจะรู้สึกว่ามีการสนับสนุนและแรงบันดาลใจในการพัฒนา
ให้ลูกลองทำงานในกลุ่มกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวในโครงการที่ต้องใช้ความร่วมมือ เช่น การทำการบ้านกลุ่มหรือการทำกิจกรรมในครอบครัว การแบ่งหน้าที่และการสนับสนุนกันและกันจะทำให้การทำงานเป็นเรื่องสนุกและได้ผลลัพธ์ที่ดี

8. ปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง
การปรับปรุงกระบวนการและวิธีการทำงานอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ลูกสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
สมมุติว่าลูกทำการบ้านและพบว่าใช้เวลานานในการทำงาน ลูกอาจลองปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เช่น การใช้เทคนิคการจัดระเบียบเวลาหรือการใช้แอปพลิเคชันช่วยในการจัดการเวลา การทบทวนและปรับปรุงวิธีการทำงานช่วยให้ลูกทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การปรับปรุงกระบวนการทำงานจะช่วยให้ลูกมีประสิทธิภาพในการทำงานและรู้สึกพอใจมากขึ้นเมื่อทำงานเสร็จสิ้น การรู้ว่ามีวิธีการที่ดีขึ้นในการทำงานทำให้รู้สึกว่าเวลาและความพยายามไม่สูญเปล่า
ให้ลูกทดลองปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานหรือเรียนรู้วิธีใหม่ ๆ เช่น การใช้เทคนิคใหม่ในการทำการบ้าน หรือการใช้เครื่องมือใหม่ในการศึกษา และติดตามผลลัพธ์ที่ได้
9. ยอมรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงตนเอง การเปิดใจรับฟังช่วยให้สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ดีขึ้น
หากลูกได้รับข้อเสนอแนะจากครูหรือเพื่อนในเรื่องที่สามารถทำได้ดีขึ้น เช่น การปรับปรุงงานเขียนหรือวิธีการทำการบ้าน ลูกสามารถนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาปรับใช้ในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น พ่อเองเคยรับฟังความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานและใช้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการทำงานของตัวเองให้ดีขึ้น
การรับฟังความคิดเห็นและการนำข้อเสนอแนะมาใช้ช่วยให้ลูกสามารถปรับปรุงการทำงานและพัฒนาทักษะได้ดีขึ้น การเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจะสร้างแรงจูงใจในการรับฟังและนำข้อเสนอแนะมาใช้ต่อไป
ให้ลูกเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากครูหรือเพื่อนเมื่อทำงานเสร็จ และใช้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงานในครั้งถัดไป เช่น การขอคำแนะนำในการทำการบ้านหรือในกิจกรรมต่าง ๆ

10. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย
ไคเซ็นให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะมันมีส่วนสำคัญในการทำให้สามารถทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยช่วยให้ลูกมีสมาธิและความกระตือรือร้นในการทำงาน
หากลูกมีพื้นที่เรียนรู้ที่สะอาดและเป็นระเบียบ จะทำให้การทำการบ้านหรือการเรียนรู้เป็นเรื่องง่ายขึ้น ลูกอาจจัดระเบียบโต๊ะเรียนให้เรียบร้อยและมีสิ่งของที่จำเป็น เช่น หนังสือหรืออุปกรณ์การเรียน เพื่อให้สามารถทำงานได้สะดวก พ่อเองเคยพบว่าการมีพื้นที่ทำงานที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก
เมื่อสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย ลูกจะรู้สึกว่าการทำงานเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจ การมีพื้นที่ที่ดีและเป็นระเบียบช่วยให้ลูกมีสมาธิและทำงานได้ดีขึ้น
ให้ลูกช่วยกันจัดระเบียบพื้นที่เรียนรู้หรือโต๊ะทำงานให้สะอาดและเรียบร้อย และเพิ่มสิ่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยในการเรียนรู้ ลูกจะรู้สึกว่า การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้การเรียนเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุก
บทสรุป
ลูกที่รัก การใช้แนวทางไคเซ็น (KAIZEN) ในการพัฒนาตนเองไม่เพียงแค่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายใหญ่ ๆ แต่ยังช่วยให้การทำสิ่งต่าง ๆ เป็นเรื่องที่สนุกและมีความหมาย การเริ่มต้นจากเป้าหมายเล็ก ๆ การสร้างนิสัยดี การมองหาความก้าวหน้า การเรียนรู้จากความล้มเหลว การแบ่งเป้าหมาย การให้รางวัลตนเอง การทำงานร่วมกัน การปรับปรุงกระบวนการ การรับฟังความคิดเห็น และการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ล้วนเป็นหลักการที่ช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
พ่อหวังว่าหลักการเหล่านี้จะเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและบรรลุเป้าหมายในชีวิตของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้ลูกจำไว้ว่าการพัฒนาเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และความสำเร็จเริ่มต้นจากการทำสิ่งเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ
…
ปักหมุดเงินล้าน! คู่มือสอนลงทุนที่ดิน
ช่องทางทำเงินจากอสังหาฯ
กำไรทุกแปลง คุ้มเงินลงทุนทุกบาท

หนังสือ QR Code Book
คู่มือทำธุรกิจที่ดิน
เนื้อหาละเอียดยิบ รู้แล้วรวยลึก
6 บทเรียน เจาะลึกเส้นทางสร้างกำไรจาก “ที่ดิน” รวบรวมเทคนิคของกูรูระดับประเทศ สรุปสาระสำคัญเอาไว้ในเล่มเดียว ปูพื้นฐานตั้งแต่เริ่มต้น บอกเคล็ดลับการเลือกซื้อที่ดินให้คุ้ม วิธีการพัฒนาต่อยอด ขั้นตอนการขายทำเงิน ไปจนถึงการวางแผนรับมือกับภาษีที่ดิน
• มีเนื้อหาให้อ่านกว่า 288 หน้า
• มาพร้อมวิดีโอการสอน 6 คลิป
• ความยาวรวมกว่า 3 ชั่วโมงเต็ม