ชีวิตที่ถูกบังคับด้วยความเร่งรีบ
ในสังคมปัจจุบัน เราทุกคนคุ้นเคยกับคำว่า “ชีวิตที่ยุ่งเหยิง” หรือ “เร่งรีบ” ราวกับมันเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความภาคภูมิใจ แต่เราเคยหยุดคิดไหมว่าความเร่งรีบนี้กำลังขโมยลมหายใจแห่งชีวิตไปจากเรา?
เรากำลังเผชิญกับความเผด็จการของความเร่งด่วน และมันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่เราเช็คโทรศัพท์ในตอนเช้า ข้อความเตือน การแจ้งเตือนงาน การแจ้งเตือนอีเมล ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนอยู่เสมอ สถานะของการทำงานอย่างเร่งรีบเช่นนี้อาจนำไปสู่ความเครียด การเหนื่อยล้า และความรู้สึกว่าถูกตัดขาดจากปัจจุบัน
ความสงบสุขค่อย ๆ หายไป
ในโลกที่เราถูกวางเงื่อนไขให้วิ่งจากงานหนึ่งไปยังอีกงานหนึ่ง โดยไม่เคยได้หยุดพักหายใจ ความเร่งด่วนกลายเป็นสิ่งที่ควบคุมชีวิตของเรา เหมือนเราเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมให้ทำงานต่อเนื่อง เรามักจะลืมว่าการมีชีวิตที่สมดุลและสงบสุขนั้นมีความสำคัญมากกว่าการผลิตและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ความเชื่อที่ว่าคุณค่าของเราถูกกำหนดโดยผลลัพธ์ที่เราสร้างขึ้น ทำให้เราละเลยสิ่งเล็ก ๆ ที่นำความสุขและความสงบมาให้ในชีวิต
ชีวิตที่ช้าลงและเต็มไปด้วยความหมาย
เมื่อเราตั้งคำถามถึงความเชื่อที่ว่า “เราต้องทำมากขึ้นเพื่อให้ได้มากขึ้น” เราเริ่มเห็นความสำคัญของการหายใจและการมีชีวิตในปัจจุบัน ชีวิตที่ช้าลงไม่ได้หมายถึงการหยุดเคลื่อนไหว แต่หมายถึงการเลือกอย่างมีสติที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจและความสำคัญอย่างแท้จริง
การหายใจเป็นสิ่งพื้นฐานของการมีชีวิต แต่ในความเร่งรีบ เรามักจะหายใจตื้น ๆ และรวดเร็ว การหายใจอย่างลึกและช้าช่วยให้ระบบประสาทของเราผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มสมาธิ หลายการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าการหายใจอย่างมีสติสามารถช่วยลดฮอร์โมนเครียดอย่างคอร์ติซอล ทำให้หัวใจเต้นช้าลง และช่วยให้เรารู้สึกสงบขึ้น
การใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ยังทำให้เราได้สัมผัสกับความสุขที่แท้จริงจากสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิต เช่น การเดินเล่นในสวน การฟังเสียงนก หรือการนั่งสมาธิ ในการแสวงหาความสุขและความสงบเหล่านี้ เราเริ่มเข้าใจว่าความสุขไม่จำเป็นต้องมาจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนเสมอไป แต่สามารถพบได้ในความเรียบง่ายของชีวิต
การปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้ความเร่งรีบขโมยลมหายใจแห่งชีวิต
ดังนั้น เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ความเร่งรีบขโมยลมหายใจแห่งชีวิตไปจากเรา? คำตอบอยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างตั้งใจและมีสติ นี่คือ 7 บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้จากหนังสือ Chasing Slow โดย Erin Loechner เพื่อช่วยให้เราหลุดพ้นจากวงจรความเร่งรีบ
1. ทบทวนความเผด็จการแห่งความเร่งด่วน รู้จักสังเกตและท้าทายความคิดที่ว่าคุณต้องรีบทำทุกอย่าง ลองหยุดพักหายใจและพิจารณาว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ตอนนี้มีความสำคัญจริง ๆ หรือไม่
2. ตั้งคำถามกับลัทธิแห่งผลผลิต หยุดเปรียบเทียบคุณค่าของตนเองกับประสิทธิภาพการผลิต ความสุขและสุขภาพจิตของคุณมีค่ามากกว่าผลลัพธ์ที่คุณสามารถผลิตได้
3. ค้นพบความสุขในความเรียบง่าย เรียนรู้ที่จะชื่นชมสิ่งเล็กๆ ในชีวิต เช่น การดื่มกาแฟในตอนเช้า การอ่านหนังสือที่คุณรัก หรือการใช้เวลาคุยกับคนที่คุณรัก
4. ฝึกสติและการหายใจอย่างลึกซึ้ง รวมการฝึกสติ เช่น การนั่งสมาธิ การหายใจอย่างมีสติ เข้าสู่ชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อช่วยให้คุณยึดมั่นในปัจจุบันและพบความสงบภายใน
5. จัดลำดับความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างตั้งใจ เลือกอย่างมีสติเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้เวลาและพลังงานของคุณ ให้การกระทำของคุณสอดคล้องกับค่านิยมและความมุ่งหวังส่วนตัว
6. กำหนดขอบเขตที่ดี เรียนรู้ที่จะปฏิเสธคําขอที่ลดเวลาและพลังงานของคุณ และให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของตนเอง
7. โอบกอดการใช้ชีวิตอย่างช้า ๆ ยอมรับหลักการของการใช้ชีวิตอย่างช้า ๆ สร้างชีวิตที่อุดมไปด้วยประสบการณ์ ความสัมพันธ์ และการเติบโตส่วนบุคคล
การนำบทเรียนเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณมีความสุขและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น การหายใจลึก ๆ อย่างมีสติในทุก ๆ วัน จะช่วยให้คุณได้กลับมาสู่ปัจจุบัน ปล่อยวางความเครียด และรู้สึกว่าชีวิตของคุณเต็มไปด้วยความหมายมากขึ้น
สรุปได้ว่า…
อย่าปล่อยให้ความเร่งรีบขโมยลมหายใจแห่งชีวิตไปจากคุณ ชีวิตไม่ใช่การแข่งขันหรือการวิ่งให้ถึงเส้นชัยเร็วที่สุด แต่เป็นการเดินทางที่เราสามารถเลือกทางและเพลิดเพลินกับทุกก้าวย่างได้ จำไว้ว่าการหายใจช้า ๆ อย่างมีสติคือการกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริงและการมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความหมาย
…
หนังสือ วิทยาศาสตร์ของการหายใจ
หนังสือ BestSeller ยอดขายทำลายสถิติ
หนังสือว่าด้วยเรื่องของลมหายใจเล่มนี้ จะนำพาผู้อ่านก้าวข้ามกรอบความคิดแบบเดิม ๆ โดยนำเสนอมุมมองใหม่ที่แตกต่างจากคู่มือดูแลสุขภาพทั่ว ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เปิดเผยความเชื่อมโยงอันซับซ้อนระหว่างร่างกายและจิตใจ รวบรวมเอาศาสตร์แห่งลมหายใจแบบโบราณ ผนวกเข้ากับมุมมองทางการแพทย์ตะวันตกสมัยใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือและพิสูจน์ได้
คุณจะได้ค้นพบความลึกลับของ “กายทิพย์” พลังที่เชื่อมโยงร่างกายกับจิตใจเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและการบรรลุจิตภาวะชั้นสูง สัมผัสศาสตร์แห่งปราณยามะ อานุภาพของการฝึกสมาธิ กำหนดลมหายใจ กำหนดจิต ตามแบบฉบับคู่มือฝึกสอนโยคะโบราณของชาวหิมาลัย
• หากมีข้อสงสัย แอดไลน์ : @7dbook.store (มี@)
