สรุปเทคนิคการเล่าเรื่องจากหนังสือ Thinking, Fast and Slow โดย Daniel Kahneman

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

หนังสือ Thinking, Fast and Slow เป็นการสำรวจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์ในด้านการตัดสินใจ โดย Daniel Kahneman ได้นำเสนอแนวคิดที่สำคัญเกี่ยวกับ สองระบบของความคิด ที่ทำให้เราตัดสินใจในแต่ละวัน ได้แก่ System 1 การคิดอย่างรวดเร็วและตามสัญชาติญาณ และ System 2 การคิดที่ช้าและใช้การวิเคราะห์ โดยหนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากอคติทางความคิด (cognitive biases) และเสนอแนวทางในการปรับปรุงการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

จุดเด่นและสิ่งที่แตกต่างจากหนังสือทั่วไป

หนังสือเล่มนี้โดดเด่นที่การผสมผสานระหว่างการวิจัยทางจิตวิทยากับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เพื่ออธิบายถึงกระบวนการตัดสินใจของมนุษย์ Kahneman ใช้ข้อมูลจากการทดลองต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงและตัวอย่างในชีวิตประจำวันเพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดที่มาจากการคิดแบบรวดเร็ว (System 1) และวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านั้น โดยมุ่งเน้นที่การเสริมสร้างความเข้าใจในการตัดสินใจและการลดอคติในการคิด

หนังสือเล่มนี้แก้ปัญหาอะไร

หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลหรือผิดพลาด ซึ่งเกิดจากการใช้ System 1 อย่างไม่ระมัดระวัง และการไม่ใช้เวลาในการคิดอย่างมีเหตุผล (System 2)

Kahneman อธิบายถึงการเข้าใจ อคติทางความคิด ที่มีผลต่อการตัดสินใจและเสนอวิธีการในการแก้ไขสิ่งเหล่านั้น โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะคิดช้าและใช้การวิเคราะห์ในสถานการณ์ที่สำคัญ

หนังสือเล่มนี้แก้ปัญหาให้กับใคร

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาทักษะการตัดสินใจ โดยเฉพาะผู้บริหาร นักธุรกิจ นักการเงิน นักจิตวิทยา และผู้ที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์และตัดสินใจในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจในชีวิตประจำวัน

มาดูแนวคิดและเทคนิคการเล่าเรื่องกัน

1. Two Systems of Thinking

แนวคิด: Kahneman เริ่มต้นด้วยการอธิบายถึงสองระบบของการคิดที่ทำงานร่วมกัน System 1 คิดเร็ว,โดยอาศัยสัญชาติญาณ และ System 2 คิดช้า ใช้การวิเคราะห์

ทั้งสองระบบนี้ทำงานในลักษณะเสริมกัน โดย System 1 จะทำงานในสถานการณ์ที่ต้องการการตัดสินใจรวดเร็ว เช่น การเดินข้ามถนน หรือเลือกสินค้าที่ดูดีทันที ส่วน System 2 จะเข้ามามีบทบาทเมื่อเราเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งต้องการการวิเคราะห์

เทคนิคการเล่าเรื่อง: Kahneman ใช้กรณีศึกษาในชีวิตประจำวันและผลการทดลองทางจิตวิทยามาช่วยอธิบายว่าทำไมเราจึงตัดสินใจผิดพลาดจาก System 1 และให้ตัวอย่างในการตัดสินใจที่ต้องการการคิดที่ช้าและมีการวิเคราะห์จาก System 2

2. Cognitive Biases

แนวคิด: Kahneman พูดถึงอคติทางความคิดที่เกิดจากการใช้ System 1 ซึ่งทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด เช่น Anchoring (การอ้างอิง), Confirmation Bias (การเลือกข้อมูลที่ยืนยันสิ่งที่เราเชื่อ), และ Hindsight Bias (การมองย้อนหลังและคิดว่าเหตุการณ์นั้น ๆ สามารถทำนายได้)

เทคนิคการเล่าเรื่อง: ใช้กรณีศึกษาเชิงประจักษ์ เช่น ตัวอย่างของการลงทุนที่มักจะได้รับผลกระทบจากการติดอยู่กับข้อมูลเริ่มต้น (Anchor) หรือการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลจากการเลือกข้อมูลที่ยืนยันความคิดเห็นเดิม

3. Anchoring Effect

แนวคิด: ผู้คนมักจะถูก anchor หรือ “ติดกับ” ข้อมูลแรกที่ได้รับ ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจของพวกเขาผิดพลาด เช่น การประเมินมูลค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามราคาที่เห็นเป็นครั้งแรก

เทคนิคการเล่าเรื่อง: การยกตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าหรือการประเมินมูลค่า เช่น การประเมินราคาของบ้านหรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่ผู้คนมักจะใช้ข้อมูลแรกที่ได้รับเป็นตัวอ้างอิงในการตัดสินใจ

4. Loss Aversion

แนวคิด: คนมักจะมีความกลัวการสูญเสียมากกว่าการได้มา ซึ่งทำให้พวกเขามักเลือกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากกว่าการแสวงหากำไร

เทคนิคการเล่าเรื่อง: ใช้กรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคนมักจะไม่เลือกทำอะไรเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย แม้ว่าโอกาสในการได้รับกำไรจะมากกว่า

5. Overconfidence

แนวคิด: Kahneman อธิบายว่าอคติของการมั่นใจเกินไปทำให้คนตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย เพราะมักจะประเมินสถานการณ์เกินกว่าความจริง

เทคนิคการเล่าเรื่อง: ใช้กรณีจริงเพื่ออธิบายถึงความมั่นใจเกินไปในการประเมินสถานการณ์ เช่น การประเมินความสามารถในการลงทุนหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดจากการคิดว่ามีความรู้หรือความสามารถมากเกินไป

Daniel Kahneman เป็นนักจิตวิทยาชาวอิสราเอลและได้รับรางวัล โนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ในปี 2002 จากผลงานวิจัยเกี่ยวกับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจและการประยุกต์ใช้ทฤษฎีทางจิตวิทยาในเศรษฐศาสตร์ เขาเป็นผู้บุกเบิกในการศึกษาการตัดสินใจในสภาวะไม่แน่นอน และเป็นผู้ที่พัฒนาทฤษฎีการตัดสินใจที่มักถูกเรียกว่า Prospect Theory ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม

จากเทคนิคการเล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้ นี่คือคอนเซ็ปท์ที่คุณสามารถนำไปต่อยอดเป็นหลักสูตร หรือหนังสือได้

1. การฝึกอบรมการคิดเชิงวิเคราะห์ : ใช้แนวคิดจาก Thinking, Fast and Slow เพื่อสร้างหลักสูตรที่ช่วยฝึกทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล ช่วยให้ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถตัดสินใจในสถานการณ์ซับซ้อนได้ดีขึ้น

2. การออกแบบหลักสูตรการตัดสินใจ : นักเขียนและวิทยากรสามารถนำข้อคิดจาก Cognitive Biases มาออกแบบหลักสูตรที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดและวิธีแก้ไข เช่น การใช้การคิดที่ช้ากว่าเพื่อเพิ่มความแม่นยำ

3. การใช้กรณีศึกษา : การใช้กรณีศึกษาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมเห็นภาพและเข้าใจผลกระทบจากการคิดอย่างรวดเร็ว เช่น การตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุนหรือธุรกิจ

4. การสร้างเนื้อหาเพื่อการพัฒนา : นักเขียนสามารถใช้หนังสือเล่มนี้ในการสร้างบทความ, บล็อก, หรือสื่ออื่นๆ ที่ช่วยเสริมทักษะการตัดสินใจของผู้อ่าน

5. การใช้ในคำปรึกษา : ที่ปรึกษาสามารถใช้แนวคิดเหล่านี้ในการแนะนำองค์กรในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ เช่น การวางแผนกลยุทธ์หรือการลงทุน

— ครูพี่ม้อค สำนักพิมพ์ 7D Book —

ใช้ AI ช่วยทำเงินล้านจากการขายหนังสือและหลักสูตร
เวิร์กช็อป 2 วันกับครูพี่ม้อคและทีมผู้เชี่ยวชาญ

สอนการใช้ Facebook และ AI เพื่อให้คุณดังและรวย พร้อมเทคนิคการตลาดที่คุณสามารถทำตามได้ทันที

ภาพรวมเวิร์กช็อป 2 วันเต็ม

1. เรียนรู้วิธีสร้างตัวตนและคอนเทนต์ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่
2. เรียนรู้เทคนิคการเล่าเรื่อง การเขียนสคริปต์ และการสร้างวิดีโอ
3. ใช้ AI เพื่อช่วยในการเขียนคอนเทนต์ การทำโฆษณา และการปิดการขาย

วันที่ 1: เริ่มต้นสร้างตัวตนและคอนเทนต์ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายโดยการใช้ AI เป็นผู้ช่วยในทุกขั้นตอน

วันที่ 2: การสร้างคอนเทนต์และการตลาดที่ทำเงินนับล้านโดยการใช้ AI เป็นผู้ช่วยในทุกขั้นตอน

วันที่ 2-3 พฤศจิกายน (เสาร์ อาทิตย์)
ที่สำนักพิมพ์ 7D Book ลาดพร้าว กทมฯ

ทักในช่องความคิดเห็นหรือในอินบ็อกซ์ตอนนี้

แบ่งปันเพื่อนๆ หรือ แชร์เก็บไว้ดูเอง

Leave a Reply